เมื่อ ChatGPT หลงทาง: สิ่งที่เราเรียนรู้จากวันแปลกๆ ของผู้ช่วย AI
เมื่อวันอังคารที่แล้ว มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับ ChatGPT ซึ่งเป็นหนึ่งในโมเดลการสนทนา AI ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า แชทบอตเริ่มตอบคำถามง่ายๆ และการเปรียบเทียบกับย่อหน้าที่คดเคี้ยวไปมาของคำไร้สาระ แทนที่จะอธิบายที่เป็นประโยชน์ ผู้ใช้ที่สับสนพาไปที่โซเชียลมีเดียเพื่อแบ่งปันตัวอย่างพฤติกรรมใหม่ที่แปลกประหลาดของบอท
แม้ว่าเหตุการณ์ในอดีตจะน่าขบขัน แต่เหตุการณ์ประหลาดนี้เน้นย้ำถึงความเป็นจริงที่สำคัญเกี่ยวกับข้อจำกัดในปัจจุบัน แม้แต่ระบบ AI ที่ทันสมัยที่สุด โมเดลกำเนิดเช่น ChatGPT เป็นโครงข่ายประสาทเทียมที่ซับซ้อนซึ่งได้รับการฝึกฝนให้ทำนายภาษา แต่พวกมันไม่เข้าใจความหมายในแบบที่มนุษย์เข้าใจอย่างแท้จริง เมื่ออินพุตที่ไม่คาดคิดหรือความผิดพลาดภายในขัดขวางความสามารถในการจับคู่รูปแบบ อาจส่งผลให้เอาต์พุตไม่สามารถเข้าใจได้
มีอะไรผิดปกติ?
OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT ยืนยันในภายหลังว่า “ข้อบกพร่องเกี่ยวกับวิธีการประมวลผลภาษาของโมเดล” คือการตำหนิ โครงข่ายประสาทเทียมที่ขับเคลื่อนโมเดล AI ดังกล่าวทำงานโดยการสุ่มตัวเลขเพื่อจับคู่กับโทเค็นคำระหว่างการสร้างการตอบสนอง แต่ความผิดพลาดทำให้เกิดการเลือกหมายเลขไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ลำดับคำไม่สมเหตุสมผล บริษัทได้ดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหานี้
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวยังคงเป็นเครื่องเตือนใจว่า AI เจนเนอเรชั่น เช่น ChatGPT ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถสร้างภาษาที่แปลกประหลาดหรือไร้สาระได้ หากการประมวลผลภายในผิดพลาด แม้ว่าโมเดลดังกล่าวจะนำเสนอความสามารถในการสนทนาที่น่าสนใจ แต่เราต้องระวังที่จะไม่พึ่งพาโมเดลเหล่านี้มากเกินไปหรือไร้วิพากษ์วิจารณ์สำหรับงานสำคัญๆ เช่น การทำงาน การศึกษา หรือการสนับสนุนการตัดสินใจ ความสามารถของพวกเขายังคงมีจำกัดเมื่อเทียบกับความเชี่ยวชาญทางภาษาระดับมนุษย์
โดยสรุป วันที่แปลกประหลาดของวันอังคารที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นทั้งคำมั่นสัญญาและข้อจำกัดในปัจจุบันของ AI เช่น ChatGPT เนื่องจากแบบจำลองอันทรงพลังเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติในชีวิตของเรา สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้าหาโมเดลเหล่านั้นอย่างรอบคอบ โดยตระหนักถึงสิ่งที่พวกเขาทำได้และทำไม่ได้ รวมถึงบทเรียนที่อาจมาจากความผิดพลาดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของพวกเขา เหตุการณ์เช่นนี้เน้นให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องที่ยังจำเป็นก่อนที่ AI จะจับคู่ความสามารถของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง